วันพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2554

โครงสร้างของคลาส

1.โครงสร้างของคลาส

โปรแกรมที่สร้างจากภาษาจาวา ต้องสามารถสร้างออปเจ็คหรือคลาสให้ได้อย่างน้อยหนึ่งตัว โดยมีรูปแบบโครงสร้างดังนี้

                                            class Class_Name
                                            { Data_Member
                                            Mothod_Member
                                            }


class คือคีย์เวิร์ดสำหรับกำหนดคลาส
Class_Name คือชื่อคลาส
Data_Member ดาต้าในคลาส
Method_Member เมธรอดในคลาส
สัญลักษณ์ { } คือของเขตของคลาส


2. กฎการตั้งชื่อ(Identify)

ใช้ตั้งชื่อคลาส ชื่อดาต้า ชื่อเมธรอด และชื่อตัวแปร
ประกอบด้วยตัวอักษร และหรือตัวเลข โดยตัวอักษรให้ใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษไม่ว่าตัวเลขหรือตัวใหญ่ รวมถึงสัญลักษณ์พิเศษ _ หรือ $ เช่น age, name2, int2float, _name, Currency$ เป็นต้น
ความยาวตัวอักษรไม่ควรเกิน 65535 ตัวอักษร
ไม่ควรมีตัวเลขเป็นตัวแรก เช่น 101database, 2name ถือว่าไม่สามารถใช้ตั้งชื่อได้
ตัวอักษรตัวเล็กและตัวใหญ่มีความแตกต่างกัน ดังนั้น Count, count และ CoUnT ทั้งสามตัวอ่านเหมือนกัน แต่ถือว่าเป็นคนละตัวกัน
ต้องไม่ตรงกับคีย์เวิร์ดใดในภาษาจาวาดังต่อไปนี้




abstract  double  int  strictfp **  boolean
else  interface  super  break  extends
long  switch  byte  final  native
synchronized  case  finally  new  this
catch  float  package  throw  char
for  private  throws  class  goto *
protected  transient  const *  if  public
try  continue  implements  return  void
default  import  short  volatile  do
instanceof  static  while


* แสดงคีย์เวิร์ดที่ไม่มีใช้ใน JDK เวอร์ชัน 1.2 ขึ้นไป
** แสดงคีย์เวิร์ดที่เพิ่มเข้ามาตั้งแต่ JDK เวอร์ชัน 1.2 ขึ้นไป


3. ดาต้า(Data Member)

รูปแบบ

                     [Access_Level] [final] [static] Data_Type Data_Name

ดาต้าคือส่วนประกอบส่วนหนึ่งของคลาส ถูกกำหนดเพื่อใช้สำหรับเก็บข้อมูล เช่นคลาส Pen มีดาต้า Color ไว้เก็บข้อมูลสี

1.Access_Level ระดับการเข้าถึง ประกอบด้วยคีย์เวิร์ด 3 ตัวคือ public, private และ protected
2.คีย์เวิร์ด public เป็นระดับการเข้าถึงข้อมูลที่ไม่มีข้อจำกัดใดๆ
3.คีย์เวิร์ด private เป็นระดับการเข้าถึงข้อมูล สำหรับการใช้งานภายในคลาสเท่านั้น
4.คีย์เวิร์ด protected เป็นระดับการเข้าถึงข้อมูลภายในคลาส และสำหรับคลาสที่สืบทอดมา (Inherit) 5.แต่ต้องอยู่ในเพ็กเกจ (package) เดียวกัน
6.ถ้าไม่ระบุคีย์เวิร์ด เป็นระดับการเข้าถึงข้อมูลภายในคลาส และอยู่เพ็กเกจเดียวกัน


final เป็นคีย์เวิร์ดตัวหนึ่งซึ่งใช้บอกว่าดาต้าตัวนั้นใช้สำหรับเก็บข้อมูล โดยที่ข้อมูลจะไม่สามารถทำการเปลี่ยนแปลงได้ไม่ว่าในกรณีใดๆ ปกติจะใส่คีย์เวิร์ดนี้ไว้เมื่อต้องการให้ดาต้าเก็บข้อมูลที่เป็นข้อมูลที่คงที่ (Constant) ตลอดการทำงานของโปรแกรม

static เป็นคีย์เวิร์ด สำหรับใช้บอกถึงคุณลักษณะพิเศษในการใช้งาน เมื่อมีการกำหนดให้ดาต้าใดๆนำหน้าด้วยคีย์เวิร์ด static แล้ว ดาต้าตัวนั้นจะมีคุณลักษณะดังนี้

7.ดาต้า จะถูกโหลดลงในหน่วยความจำและพร้อมที่จะถูกใช้งานในทันทีเมื่อมีการอ้างถึง ตามข้อกำหนดของระดับการเข้าถึง (Access Level)
8.ดาต้า จะอยู่ในหน่วยความจำเพียงตัวเดียว ไม่ว่าคลาสจะถูกสร้างเพื่อเป็นออปเจ็คกี่ตัวก็ตาม ดังนั้นจึงสามารถใช้ดาต้าเป็นที่เก็บข้อมูลรวมของกลุ่มคลาสเดียวกันได


                                          class SimpleClass
                                          {
                                           int data1;
                                           }


4. เมธรอด(Method Member)


รูปแบบ

[Access_Level] [final] [static] Return_Type Method_Name ( Argument_List )
{ Statement }
Argument_List คือช่องทางสำหรับการผ่านข้อมูลเพื่อส่งให้กับเมธรอดใช้ในการทำงาน
Statement คือคำสั่ง คีย์เวิร์ดควบคุมการทำงาน เอ็กเพลสชั่นใดๆ เพื่อกำหนดหลักการและวิธีการประมวลผลภายในเมธรอด
สัญลักษณ์ { และ } เป็นเครื่องหมายบ่งบองขอบเขตของเมธรอด


                                             class SimpleClass
                                             { void method1( )
                                             { }
                                              }

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น